วันศุกร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ปัญญาลูกสาวชาวนา

เศรษฐีคนหนึ่ง ชอบใจลูกสาว ชาวนายากไร้ผู้หนึ่ง เขาเชิญชาวนากับลูกสาว ไปที่สวนในคฤหาสน์ของเขา เป็นสวนกรวดกว้างใหญ่ ที่มีแต่กรวดสีดำกับสีขาว

เศรษฐีบอกชาวนาว่า "ท่านเป็นหนี้สินข้าจำนวนหนึ่ง แต่หากท่านยกลูกสาวให้ข้า จะยกเลิกหนี้สินทั้งหมดให้"

ชาวนาไม่ตกลง

เศรษฐี บอกว่า "ถ้าเช่นนั้นเรามาพนันกันดีไหม ข้าจะหยิบกรวดสองก้อน ขึ้นมาจากสวนกรวด ใส่ในถุงผ้านี้ ก้อนหนึ่งสีดำ ก้อนหนึ่งสีขาว ให้ลูกสาวของท่าน หยิบก้อนกรวดจากถุงนี้ หากนางหยิบได้ก้อนสีขาว ข้าจะยกหนี้สินให้ท่าน และนางไม่ต้องแต่งงานกับข้า แต่หากนางหยิบได้ก้อนสีดำ นางต้องแต่งงานกับข้า และแน่นอน ข้าจะยกหนี้ให้ท่านด้วย"

ชาวนาตกลง

เศรษฐีหยิบกรวดสองก้อน ใส่ในถุงผ้า หญิงสาวเหลือบไปเห็นว่า กรวดทั้งสองก้อนนั้นเป็นสีดำ

เธอจะทำอย่างไร?

หากเธอไม่เปิดโปงความจริง ก็ต้องแต่งงาน กับเศรษฐีขี้โกง
หากเธอเปิดโปงความจริง เศรษฐีย่อมเสียหน้า และยกเลิกเกมนี้ แต่บิดาของเธอ ก็จะยังคงเป็นหนี้เศรษฐี ต่อไปอีกนาน

เราส่วนใหญ่ถูกสอนมาให้มอง ปัญหาแบบขาวกับดำ แต่ไม่ใช่ทุกปัญหา สามารถแก้ไขได้อย่างขาวกับดำ เสมอไป

ในทางตรงข้าม หากเราลองมองต่างมุม จะพบว่าหนทางการแก้ปัญหา มีมากกว่าหนึ่งสายเสมอ และการยืดหยุ่นพลิกแพลง ไปตามสถานการณ์เป็นวิธีการหนึ่ง

บางครั้งในการแก้ปัญหา เราอาจต้องสร้างเครื่องมือ ในการแก้ปัญหาขึ้นมาใหม่

โลกไม่ได้มีเพียงแค่สีขาวกับดำ

ลูกสาวชาวนา เอื้อมมือลงไปในถุงผ้า หยิบกรวดขึ้นมาหนึ่งก้อน พลันเธอปล่อยกรวด ในมือร่วงลงสู่พื้น กลืนหายไปในสีดำและขาว ของสวนกรวด

เธอมองหน้าเศรษฐี เอ่ยว่า "ขอ อภัยที่ข้าพลั้งเผลอ ปล่อยหินร่วงหล่น แต่ไม่เป็นไร ในเมื่อท่านใส่กรวดสีขาวกับสีดำ อย่างละหนึ่งก้อนลงไปในถุงนี้ ดังนั้นเมื่อเรา เปิดถุงออก ดูสีกรวดก้อนที่เหลือ ก็ย่อมรู้ทันทีว่า กรวดที่ข้าหยิบไป เมื่อครู่เป็นสีอะไร"

ที่ก้นถุงเป็นกรวดสีดำ

"ดังนั้นกรวดก้อนที่ข้าทำตก ย่อมเป็นสีขาว"
ชาวนาพ้นสภาพลูกหนี้ และลูกสาวไม่ต้องแต่งงาน กับเศรษฐีขี้โกงคนนั้น

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

"หากเราพยายามมากพอ ที่จะแก้ไขปัญหา เราจะพบว่าทุกปัญหา ย่อมมีวิถีทางแก้ไขเสมอ"

เรื่องเล่าสั้นๆ แต่ความหมายลึกซึ้ง

======= เรื่องที่ 1 ======

หนูตัวหนึ่งตกลงไปในถังข้าวสาร แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือมันดีใจมาก มันคิดว่ามันโชคดี มันจึงกินขาวสารนั้นอย่างอิ่มหมีพีมัน กินแล้วก็นอน นอนแล้วก็กิน เป็นอยู่อย่างนี้หลายวัน

วันแห่งความสุขมักผ่านไปอย่างรวดเร็วเสมอ วันหนึ่งตอนที่มันกินจนเห็นพื้นของถังข้าวสาร มันฉุกใจคิด แต่ข้าวสารในถังก็เป็นสิ่งที่ยั่วยวนเหลือเกิน มันกินจนข้าวสารในถังหมดไป

ถึงตอนนี้มันถึงรู้ว่า การปีนออกจากถังเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อีกต่อไป

@ การใช้ชีวิตของเราดูเหมือนปกติธรรมดา แต่แท้ที่จริงแล้ว มันเต็มไปด้วยกับดักและหลุมพรางที่แสนอันตราย...ดังนั้น ควรปรับตัว และวางแผนระยะยาวเสมอๆ

====== เรื่องที่ 2 =======

ภรรยากำลังทำกับข้าวอยู่ในครัว สามีคอยกำกับอยู่ข้างๆ

“คนเบาๆ ช้าๆหน่อย ระวังหน่อยสิ ไฟแรงไป เร็วๆ รีบพลิกปลาได้แล้ว ตักออกมาสิ น้ำมันเยอะไปนะ คีบเต้าหู้วางให้ตรงๆสิ! ”
“นี่คุณ” ภรรยาทนไม่ไหว “ฉันทำกับข้าวเป็น พูดอยู่ได้”

“ที่รัก ผมรู้ว่าคุณทำเป็น” ผู้เป็นสามีบอกออกไป “ผมเพียงอยากให้คุณรู้ว่า เวลาที่ผมขับรถแล้วคุณคอยบอกให้ผมเบรก ให้ผมเร็ว ให้ผมระวัง ให้ผมแซงนะ ผม 'รู้สึก' ยังไง”

@ การเรียนรู้ที่จะเข้าใจคนอื่นนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่คุณยินดียืนอยู่ใน "จุดยืน" ของฝ่ายตรงข้ามก็แค่นั้นเอง.

======= เรื่องที่ 3 =======

วันที่1 กระต่ายออกไปตกปลา กลับมาตัวเปล่าไม่ได้ปลากลับมาเลย
วันที่ 2 กระต่ายไปตกปลาอีก แต่ก็กลับมาตัวเปล่าเหมือนเมื่อวาน
วันที่ 3 เมื่อกระต่ายไปถึงบ่อปลา ปลาตัวหนึ่งก็กระโดดขึ้นจากน้ำและตะโกนพูดขึ้นว่า “ถ้านายยังเอาแครอทมาเป็นเหยื่ออีก ฉันจะกระโดดขึ้นจากน้ำมาตบแกให้ตายเลยเชียว”

@ การที่คุณให้ในสิ่งที่คุณชอบแก่คนอื่น แต่ถ้ามันไม่ใช่สิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามต้องการ มันก็ไม่มีค่า

======= เรื่องที่ 4 =======

มีเสืออยู่สองตัว ตัวหนึ่งอยู่ในกรง อีกตัวหนึ่งอยู่ในป่า มันต่างคิดว่าที่ๆมันอยู่นั้นไม่น่าอยู่เลย ต่างก็อิจฉาการดำเนินชีวิตของซึ่งกัน วันหนึ่ง พวกมันจึงแลกที่อยู่กัน ต่างก็มีความสุขกับสภาพแวดล้อมใหม่
ต่อมาไม่นาน เสือทั้งสองตัวก็ตาย ตัวหนึ่งอดตายอยู่ในป่า อีกตัวหนึ่งตายเพราะซึมเศร้าอยู่ในกรง

@ การที่บางครั้ง เราไม่ถนอมวาสนาที่เรากำลังได้รับอยู่ แต่เรามักอิจฉาในวาสนาของคนอื่น แท้จริงแล้ว สิ่งที่คุณมีนั่นแหละ คือสิ่งที่คนอื่นอิจฉา

======= เรื่องที่ 5 =======

ปีหนึ่งในมหาวิทยาลัย เด็กสาวนางหนึ่งซึ่งหน้าตาก็ไม่ได้สวยอะไรมาก เธอสมัครเป็นดาวคณะ ตอนที่เธออออกมาแนะนำตัวต่อหน้าเพื่อนนิสิต เธอบอกว่า

“หากเพื่อนๆเลือกฉัน อีกสิบปีข้างหน้า เพื่อนๆสามารถอวดกับลูกๆและสามีได้ว่า ในปีที่แม่เรียนอยู่ แม่สวยกว่าดาวของคณะ”

เมื่อถึงเวลาเลือกดาวคณะ ปรากฏว่าเธอชนะ

@ การจะพูดให้คนอื่นยอมรับคุณ ไม่ต้องบอกในความพิเศษและโดดเด่นของคุณ แต่จงทำให้คนอื่นรู้สึกว่าเพราะคุณ พวกเขาจึงมีความพิเศษและโดดเด่นขึ้น

======= เรื่องที่ 6 =======

ในงานเลี้ยงแห่งหนึ่ง มาร์ก ทเวนนั่งอยู่ตรงข้ามกับผู้หญิงคนหนึ่ง เขาพูดไปตามมารยาทว่า “คุณสวยจริงๆครับ”

ผู้หญิงคนนั้นกลับไม่รับน้ำใจ ไม่แม้แต่จะกล่าวคำว่าขอบคุณ เธอพูดออกไปอย่างยโสว่า “น่าเสียใจ ฉันไม่อาจชมว่าคุณหล่อเหมือนที่คุณชมว่าฉันสวยได้!”

มาร์ก ทเวนพูดออกไปอย่างสุภาพว่า “ไม่เป็นไรครับ แต่คุณควรฝืนใจฝึกพูดโกหกเหมือนผมบ้างก็ได้นะครับ”
ผู้หญิงคนนั้นรู้สึกอับอายจนไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง

@ การที่คุณโยนหินออกไปข้างหน้า คนที่จะสะดุดมันล้มไม่เป็นท่าก็คือตัวคุณนั่นแหละ

Cr. อ.บรรจง ที่ปรึกษาการลงทุน / เพิ่มผมเป็นเพื่อน คุยเรื่อง ธุรกิจ และการลงทุน

ขอทานกับพระพุทธองค์

            มีขอทานคนหนึ่งออกขอทานทุกวัน เขาอยากจะมีชีวิตเหมือนคนปกติ เพราะฉะนั้น เขาจึงมักจะขอทานเสบียงกรังและตุนไว้ แต่ว่าเขากักตุนเสบียง...